สเตนเลสเป็นวัสดุอเนกประสงค์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อน แข็งแรง และสวยงาม ในบรรดาเกรดที่มีอยู่มากมาย สเตนเลส 201, 430, 304 และ 310 โดดเด่นด้วยคุณสมบัติและการใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์
สแตนเลส 201เป็นทางเลือกที่มีต้นทุนต่ำกว่า 304 และใช้เป็นหลักในงานที่ความต้านทานการกัดกร่อนไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ มีปริมาณแมงกานีสสูงกว่าและมีปริมาณนิกเกิลต่ำกว่า ทำให้มีต้นทุนต่ำกว่าแต่ยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่าอีกด้วย การใช้งานทั่วไป ได้แก่ เครื่องครัว ชิ้นส่วนยานยนต์ และส่วนประกอบอาคารบางส่วน
สแตนเลส 430เป็นเหล็กเกรดเฟอร์ริติกซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องความต้านทานการกัดกร่อนและการขึ้นรูปที่ดี เหล็กชนิดนี้มีคุณสมบัติเป็นแม่เหล็กและมักใช้ในงานที่ต้องทนต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง การใช้งานทั่วไป ได้แก่ เครื่องใช้ในครัว อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ และระบบไอเสีย ความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิสูงยังทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมบางประเภทอีกด้วย
ติดต่อเราเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
Email: sales01@royalsteelgroup.com(Sales Director)
โทร / WhatsApp: +86 153 2001 6383

สแตนเลส 304เกรดสเตนเลสที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดชนิดหนึ่ง ขึ้นชื่อในเรื่องความทนทานต่อการกัดกร่อนและการเชื่อมที่ดีเยี่ยม มีนิกเกิลในปริมาณสูงซึ่งช่วยเพิ่มความทนทาน เกรดนี้มักพบในอุปกรณ์แปรรูปอาหาร ภาชนะบรรจุสารเคมี และงานก่อสร้าง คุณสมบัติที่ไม่เป็นแม่เหล็กทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสะอาดและความสวยงาม
สแตนเลส 310เป็นเกรดเหล็กออสเทนนิติกที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานที่อุณหภูมิสูง มีคุณสมบัติต้านทานการเกิดออกซิเดชันได้ดีเยี่ยม และมักใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ส่วนประกอบของเตาเผาและตัวแลกเปลี่ยนความร้อน ความสามารถในการทนต่อสภาวะที่รุนแรงทำให้เป็นตัวเลือกที่ต้องการสำหรับอุตสาหกรรมการบินและอวกาศและปิโตรเคมี
โดยสรุปแล้ว การเลือกสเตนเลส 201, 430, 304 และ 310 ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดเฉพาะของการใช้งาน เช่น ความทนทานต่อการกัดกร่อน ความทนทานต่ออุณหภูมิ และต้นทุน การทำความเข้าใจความแตกต่างเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับโครงการใดๆ
เวลาโพสต์: 29 ก.ย. 2567